วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2551

FORT-LA-LATTE


FORT-LA-LATTE
Anciennement la Roche-Gouyon, le château de Fort-la-Latte, situé à la pointe du même nom, en face du cap Fréhel dans le département des Côtes-d'Armor, est l'un des plus célèbres châteaux bretons. Remarquable par sa situation sur un cap rocheux, face à la mer, il a servi de décor à de nombreux films.
Histoire
Le château de la Roche-Gouyon fut construit au
XIVe siècle par le seigneur de Matignon, Étienne III Gouyon. La construction du château commença dans les années 1340, son donjon date des années 1365-1370.
En
1379, suite au retour d'exil du duc de Bretagne Jean IV le château fut assiégé par Bertrand du Guesclin. Aux alentours de 1700 le château est bastionné.
Sur le chemin menant au château se dresse un menhir qui représente le doigt de
Gargantua. La légende dit que celui ci l'aurait perdu alors qu'il enjambait la Manche afin de rejoindre les côtes d'Angleterre. On y trouve aussi la trace de son pied et de sa canne.

Firefly




หิ่งห้อยตัวน้อยตัวนิด

ลิ่กษณะทั่วไปของหิ่งห้อยหิ่งห้อย (Firefly , Lightening bug) แมลงแสง แมลงคาเรือง หรือ แมลงทิ้งถ่วง ทั่วโลกมีหิ่งห้อยประมาณ 2,000 ชนิด หิ่งห้อยตัวเต็มวัยเพศผู้มีปีก ส่วนเพศเมียมีทั้งปีกและไม่มีปีก บางชนิดมีปีกสั้นมาก (B rachypterous) ชนิดที่ไม่มีปีก มีรูปร่างลักษณะคล้ายตัวหนอน หนอนของหิ่งห้อยเป็นตัวห้ำกินหอยฝาเดียว ไส้เดือน กิ้งกือ และแมลงตัวเล็กๆเป็นอาหาร หิ่งห้อยมีลักษณะเด่น คือสามารถทำแสงได้ทั้งระยะหนอน ดักแด้ ตัวเต็มวัย ส่วนระยะไข่ทำแสงได้เฉพาะบางชนิดเท่านั้น

การทำแสงของหิ่งห้อยหิ่งห้อยมีอวัยะทำแสงอยู่บริเวณส่วนท้องด้านล่าง เพศผู้มีอวัยวะทำแสง 2 ปล้อง เพศเมียมี 1 ปล้อง แต่บางชนิดตัวเต็มวัยเพศเมียมีรูปร่างลักษณะคล้ายหนอนมีอวัยวะทำแสงด้านข้างของลำตัวเกือบทุกปล้อง แสงของหิ่งห้อย เกิดจากปฏิกริยาของสาร Leciferin เป็นตัวเร่งปฏิกริยาและมีสาร Adenosine Triphosphate (ATP) เป็นตัวให้พลังงาน ทำให้เกิดแสง หิ่งห้อยทำแสงเพื่อการผสมพันธุ์และสื่อสารซึ่งกันและกัน ความถี่การกะพริบแสงของหิ่งห้อยแตกต่างกันตามชนิดของหิ่งห้อย

แหล่งอาศัยของหิ่งห้อยหิ่งห้อยมีแหล่งอาศัยแตกต่างกัน บางชนิดอาศัยอยู่บริเวณแหล่งน้ำจืด แต่บางชนิดอาศัยอยู่บริเวณน้ำกร่อย หรือป่าชายเลน และมีอีกหลายชนิดอาศัยอยู่บริเวณสวนป่าที่มีสภาพแวดล้อมอุดมสมบูรณ์ซึ่งไม่เคยถูกทำลายมาก่อน
วงจรชีวิตของหิ่งห้อยหิ่งห้อยมีการเจริญเติบโตแบบสมบูรณ์ (Complete metamorphosis) คือมีระยะไข่ , ระยะหนอน , ระยะดักแด้ , ตัวเต็มวัย โดยเพศเมียจะวางไข่เป็นกลุ่มใต้ใบพืชน้ำ เช่น ใบจอกหรือวางไข่เป็นฟองเดี่ยวๆ ตามพื้นดินที่ชุ่มชื้น แล้วแต่ชนิดของหิ่งห้อย ไข่เมื่อฟักออกเป็นตัวหนอนมีการลอกคราบ 4-5 ครั้ง จึ่งเข้าดักแด้ แล้วออกเป็นตัวเต็มวัย

ประโยชน์ของหิ่งห้อย1. การกะพริบแสงระยิบระยับของหิ่งห้อยจำนวนมาก ทำให้พื้นที่บริเวณนั้นเกิดความสวยงามตามธรรมชาติในยามค่ำคืน สามารถจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ได้ เช่น การลงเรือชมหิ่งห้อยที่ จังหวัดสมุทรสงคราม เพชรบุรี และ ตราด2. หิ่งห้อยเป็นดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ และสภาพแวดล้อม3. ระยะหนอนของหิ่งห้อย เป็นตัวทำลายหอย ซึ่งเป็นสัตว์อาศัยตัวกลางของพยาธิที่เป็นสาเหตุของโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และพยาธิใบไม้ในสำไส้คน4. นักวิทยาศาสตร์ กำลังสนใจศึกษาค้นคว้า สารลูซิเฟอริน ในหิ่งห้อยซึ่งเชื่อว่าสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในด้านการแพทย์และ ด้านพันธุวิศวกรรม

ตลาดน้ำอัมพวา













ตลาดน้ำที่ไหน ๆ ก็ติดตลาดกันแต่ตอนเช้าทั้งนั้น แต่ที่ตลาดน้ำอัมพวาเขาเรียกว่าเป็น "ตลาดน้ำยามเย็น" ที่เริ่มติดตลาดเอาตอนบ่ายสี่โมงไปยันค่ำ ขับรถสบาย ๆ จากกรุงเทพไปชั่วโมงเศษก็ถึงแล้ว ที่นี่นอกจากจะมีอาหารสารพัดให้เลือกชิมแล้วยังมีบรรยากาศห้องแถวเรือนไม้สองฟากคลองของเก่าแก่ให้ได้ย้อนอดีตกลับไปชื่นชมกันด้วย
อาหารการกินแสนถูกเพียงจานละ 10 บาท 15 บาท ที่สำคัญแม่ค้าแม่ขายจะพายเรือมาจอดให้คุณเกาะตลิ่งสั่งขึ้นมาชิมกัน และความที่เป็นตลาดเย็นอย่างนี้ก็เลยมีกิจกรรมล่องเรือไปชมหิ่งห้อยตัวน้อยส่องแส่งวับแว่บกันอีกด้วย เก๋ไก๋ไม่เหมือนใครเลยทีเดียว แต่ถ้าสนใจจะไปเที่ยวกันอย่าลืมว่า ตลาดมีเฉพาะ ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เท่านั้น พอแดดร่มลมตกซักหน่อย เรือบางส่วนก็ย้ายข้ามมาให้บริการกันอีกฟากหนึ่งของคลอง ที่มีที่ทางกว้างขวางกว่า แล้วก็มีโต๊ะเก้าอี้มาตั้งให้บริการทานกันได้สะดวกหน่อย
แอบกระซิบว่าทางฝั่งที่มีโต๊ะเก้าอี้นี่ตอนบ่ายแดดจะลงเลยไม่มีคนมานั่งกัน แต่พอแดดหมดคนก็ตรึมอย่างที่เห็น เพราะงั้นพอแดดอ่อนแสงลงสักนิดก็ส่งหน่วยหน้ามายึดพื้นที่ไว้ก่อน อีกส่วนก็ออกลาดตระเวนหาเสบียง จะเป็นการดียิ่งนัก ที่ตลาดน้ำอัมพวาเป็นตลาดเก่าแก่ เมื่อสัก 50-60 ปีก่อนที่นี่ถือเป็นตลาดนัดทางน้ำที่ใหญ่ที่สุดในสมุทรสงครามเลย แต่ก็เหมือนกันที่อื่น ๆ ก็คือพอถนนหนทางสะดวกมากขึ้น ตลาดการค้าก็ย้ายไปอยู่ริมถนนกันหมด แต่ชาวอัมพวายังคงอนุรักษ์รูปแบบการตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนไว้อย่างค่อนข้างสมบูรณ์ จนมาได้รับรางวัลชุมชนอนุรักษ์ดีเด่นประจำปี 2545 จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ไป เพราะงั้นก็น่าจะแวะมาชมบ้านเรือสองฝั่งคลองกันสักหน่อย

วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ถนนชองเซลิเซ่


แต่ดั้งเดิม เข้าใจกันว่าเป็นซุ้มประตูยักษ์ อยู่กลางกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศษ
ชื่อมีความหมายว่า ประตูชัย ในเวลาพิเศษเค้าเอาไว้เป็นสถานที่ให้
ทหารเดินสวนสนามกัน
แต่ในเวลาปกติ เค้าเอาไว้ให้
หมาขี้
เมื่อหนึ่งร้อยปีที่แล้ว
ประเทศไทยเคยมีโครงการสร้าง ชอง เอลิเซ่ จำลองมาไว้ที่ถนนราชดำเนิน
เช่นเดียวกับปะเทศลาว ที่มีโครงการสร้าง ประตูชัย จำลองมาไว้ที่กลางกรุงเวียงจันทน์
แต่แล้วโครงการก่อสร้างก็ล้มเลิกไป
ไม่งั้นป่านนี้เมืองเทยก็มีลานให้หมาขี้ อยู่กลางกรุง เหมือนฝรั่งเศษ และลาว
เมื่อ พ.ศ. 2538
เสี่ยอ่าง
ได้สานฝันของประเทศเทย ที่จะสร้าง ชอง เอลิเซ่ ที่ยิ่งใหญ่อลังการ โอ่โถง โอ่อ่า ขึ้น
ใน
กรุงเทพมหานคร กลางสี่แยกอสมท กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำ
ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 2300 บาท ต่อ 2 ชั่วโมง
ปัจจุบัน เสี่ยอ่าง ขายหุ้นในชอง เอลิเซ่ ให้กับนักธุรกิจจากจังหวัดขอนแก่น ไปหมดแล้ว
เพื่อนำเงินไปเล่นการเมือง
ความจริงแล้วชอง เอลิเซ่ ในปารีสนั้น ว่ากันว่าเป็นตรอกที่สวยที่สุดในโลก แต่จาก
ข้อมูลปกปิด ชอง เอลิเซ่ เป็นย่านขายบริการในปารีส

หอไอเฟล ~ Tour Eiffel

La tour Eiffel, initialement nommée tour de 300 mètres, est une tour de fer puddlé construite par Gustave Eiffel et ses collaborateurs pour l'exposition universelle de 1889. Situé à l'extrémité du Champ-de-Mars, en bordure de la Seine, ce monument parisien, symbole de la France et de sa capitale est le neuvième site le plus visité du pays en 2006 et le premier monument payant visité au monde avec 6,893 millions de visiteurs en 2007.
D'une hauteur de 300 mètres à l'origine, prolongée par la suite de nombreuses antennes culminant à 325 mètres, la tour Eiffel est restée le bâtiment le plus élevé du monde pendant plus de 40 ans. Utilisée dans le passé pour de nombreuses expériences scientifiques, elle sert aujourd'hui d'émetteur de programmes radiophoniques et télévisés.

หอไอเฟล (ฝรั่งเศส: Tour Eiffel, อังกฤษ: Eiffel Tower) หอคอยโครงสร้างเหล็กตั้งอยู่บนชองป์ เดอ มารส์ บริเวณแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส หอไอเฟลเป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ทั้งยังเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอีกด้วย
หอไอเฟลเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยตั้งชื่อตามสถาปนิกผู้ออกแบบ "กุสตาฟ ไอเฟล" ในปี พ.ศ. 2549 นักท่องเที่ยวกว่า 6,719,200 คนได้เข้าเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ และกว่า 200,000,000 คนตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง ส่งผลให้หอไอเฟลเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีคนเข้าชมมากที่สุดต่อปีอีกด้วย หอไอเฟลมีความสูง 324 เมตร (1,063 ฟุต) (รวมเสาอากาศสูง 24 เมตร (79 ฟุต)) ซึ่งก็สูงเท่ากับตึก 81 ชั้น
เมื่อหอไอเฟลสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2432 (ค.ศ. 1889) หอไอเฟลกลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกแทนที่อนุสาวรีย์วอชิงตัน และได้ครองตำแหน่งนี้มาเรื่อยๆ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2473 (ค.ศ. 1930) ก็ได้เสียตำแหน่งให้แก่ตึกไครส์เลอร์ (319 เมตร หรือ 1,047 ฟุต) ที่เพิ่งสร้างเสร็จ ปัจจุบันฟอไอเฟลสูงเป็นอันดับที่ 5 ในประเทศฝรั่งเศสและสูงที่สุดในกรุงปารีส ซึ่งอันดับสองคือหอมงต์ปาร์นาสส์ (Tour Montparnasse - 210 เมตร หรือ 689 ฟุต) ซึ่งในไม่ใช้จะถูกแทนที่โดยหออาอิกซ์อา (Tour AXA - 225.11 เมตร หรือ 738.36 ฟุต)

วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2551

เหรียญทองแรก โอลิมปิก จากยกน้ำหนัก


"เก๋" สาวเมืองปากน้ำโพ โชว์ลีลาทุบสถิติยกลูกเหล็กโอลิมปิก มาแล้วสำหรับเหรียญทอง ของการรอคอยสำหรับทัพนักกีฬาไทย ในปักกิ่งเกมส์ ตลอดสามวันที่ผ่านมา กีฬายกน้ำหนัก ก็ทำสำเร็จ ประเดิมเหรียญทองแรกให้ทัพนักกีฬาไทย
“น้องเก๋” ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล จอมพลังสาวไทย รุ่น 53 กิโลกรัม คว้าเหรียญทองแรกให้กับทัพนักกีฬาไทยในโอลิมปิกเกมส์ได้สำเร็จ
การแข่งขันยกน้ำหนักหญิง รุ่น 53 กิโลกรัม ในโอลิมปิกเกมส์ ที่กรุงปักกิ่ง “น้องเก๋” ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล จอมพลังสาวไทยจากนครสวรรค์ คว้าเหรียญทองแรกให้กับทัพนักกีฬาไทยได้สำเร็จ หลังจากทำสถิติรวมได้ 231 พร้อมกับทำลายสถิติโอลิมปิกเกมส์ โดยท่าสแนทซ์ ยกได้ 95 กิโลกรัม และ โดยท่าคลีนแอนด์เจิร์ทยกได้ 126 กิโลกรัม พร้อมกับทำลายสถิติโลกที่ 125 กิโลกรัม ซึ่งเฉือนเอาชนะ ยูน จินฮี จากเกาหลีใต้ ที่ได้เหรียญเงิน 20 กิโลกรัม และเหรียญทองแดงนาสตัสเซีย โนวิคาวา จากเบลารุส.
ที่มา - สำนักข่าวไทย
“น้องเก๋” ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล หรือชื่อเดิม คือ จันทร์พิมพ์ กันทะเตียน เกิดเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2527 เป็นบุตรสาวคนโตในจำนวนพี่น้อง 4 คน ของ นายจันทร์แก้ว และ นางภาวลี ในจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งพื้นฐานแล้วครอบครัวมีฐานะยากจน โดย นายจันทร์แก้ว นั้นยึดอาชีพเป็นกรรมกรก่อสร้างมานาน ทว่า หลังจากที่ เก๋ เมื่อวัย 11 ปี มุ่งหน้าเข้าสู่การฝึกซ้อมกีฬายกน้ำหนักอย่างจริงจัง ทำให้ฐานะครอบครัวแต่เดิมที่เคยลำบากนั้นเริ่มดีขึ้น โดยเด็กสาวรายนี้ถือเป็นกำลังหลักของครอบครัว ซึ่งจากน้ำพักน้ำแรงของจอมพลังสาววัย 24 ปี รายนี้ ปัจจุบัน คุณพ่อจันทร์แก้ว ไม่จำเป็นต้องหาเลี้ยงชีพด้วยอาชีพกรรมกรอีกแล้ว โดยหันไปยึดอาชีพขายไอศกรีมทอดแทน นอกจากนี้ “น้องเก๋” ยังเก็บหอมรอมริบเงินรางวัลจากการแข่งขันเพื่อนำเงินมาปลูกบ้านให้กับพ่อแม่ที่จังหวัดนครสวรรค์ได้อีกด้วย แม้ว่าจะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ก็ตาม ชีวิตคนเราย่อมมีขึ้นลง ซึ่ง “น้องเก๋” เองก็หลีกหนีวัฏจักรนี้ไปไม่พ้น เมื่อในชีวิตนักกีฬาต้องเสียน้ำตาถึง 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกเมื่อการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ซึ่งในครั้งนั้นจอมพลังสาวจากเมืองปากน้ำโพ ถือเป็นนักกีฬาดาวรุ่งอยู่ อีกทั้งยังลงแข่งขันในรุ่นเดียวกับ “น้องอรสู้โว้ย” อุดมพร พลศักดิ์ อีก ส่งผลให้สมาคมยกเหล็กตัด ประภาวดี ออกจากทีมชุดลุยโอลิมปิก ส่งผลให้นักยกเหล็กรายนี้เสียศูนย์จนหอบเสื้อผ้าหนีจากค่ายซ้อมไปพักใหญ่ๆ ก่อนที่ “เจ๊บุษ” บุษบา ยอดบางเตย นายกสมาคมยกเหล็กจะตามตัวกลับมา พร้อมปลุกปลอบให้กลับมาร่วมแคมป์ซ้อมทีมชาติไทยอีกครั้ง หลังจากนั้น ประภาวดี ก็กลับมาเป็นคนเดิม ตั้งใจฝึกซ้อม เพื่อโอกาสในการคว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2008 ทว่าโชคร้ายของจอมพลังรายนี้ยังไม่จบ เมื่อต้องประสบปัญหาอาการบาดเจ็บข้อศอกหลุดระหว่างการแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก 2007 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งส่งผลให้ “น้องเก๋” ต้องชวดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2007 ที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งก่อนหน้านั้น มีความหวั่นเกรงว่าอาการบาดเจ็บขนาดนั้นอาจทำให้จอมพลังรายนี้ต้องจบชีวิตนักกีฬาทีมชาติ แม้จะไม่ได้เดินทางร่วมทีมไปโคราชเกมส์ ทว่า ระหว่างนั้น “เก๋” ประภาวดี ก็หมั่นฝึกซ้อมและเรียกความฟิตอยู่เสมอ ซึ่งนับเป็นผลดีกับสภาพร่างกาย รวมทั้งความมุ่งมั่นที่มีมาก อีกทั้งสภาพจิตใจที่เยือกเย็นขึ้น ทำให้จอมพลังสาวเมืองปากน้ำโพก้าวมาถึงวันที่ประสบความสำเร็จสูงสุดด้วยการคว้าเหรียญทองปักกิ่งเกมส์ พร้อมสร้างสถิติโอลิมปิกในท่าคลีนแอนด์เจิร์กขึ้นมาใหม่ที่ 126 กิโลกรัมอีกด้วย

สำหรับผลงานของ ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล
1 เหรียญทอง ซีเกมส์ 2005 ที่ฟิลิปปินส์
1 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน ยกน้ำหนักชิงแชมป์โลกที่กาตาร์
1 เหรียญเงิน เอเชียนเกมส์ ที่กาตาร์
1 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน ยกน้ำหนักชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศจีน
1 เหรียญทอง โอลิมปิก 2008 ที่ประเทศจีน

วันอังคารที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2551

Beijing Olympic Opening ceremony









มหกรรมกีฬาโอลิมปิค ฤดูร้อน กีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติครั้งที่ 29 ได้ฤกษ์เปิดฉากขึ้นแล้วที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ "สนามรังนก" (Birds Nest Stadium) ท่ามกลางพิธีเปิดสุดอลังการทั้งแสงสีเสียงสุดตระการตา ที่ใช้นักแสดงหลายหมื่นชีวิต และมีผู้ชมที่เข้ามาร่วมเป็นสักขีพยานเต็มความจุของสนามกีฬาแห่งชาติถึง 80,000 คน โดยเจ้าภาพ จีน ได้จัดการแสดงทางวัฒนธรรม และการละเล่นพื้นบ้าน รวมทั้งหมดถึง 28 ชุด และมีการใช้พลุสีสันต่างๆ ถึง 19,884 นัด ช่วยสร้างความสวยงามให้กับพิธีเปิดของโอลิมปิค ครั้งนี้ ส่วนขบวนพาเหรดของนักกีฬาจากชาติต่างๆ รวมทั้งสิ้น 205 ชาติ ที่เดินเข้าสู่สนามในพิธีเปิดในครั้งนี้ เป็นการเดินเข้าสู่สนามเรียงชื่อประเทศตามลำดับของอักษรจีน ซึ่งกรีซ ต้นกำเนิดกีฬาโอลิมปิค ได้เดินเข้าสู่สนามเป็นชาติแรก ส่วนทัพนักกีฬาไทยเดินเข้าสู่สนามเป็นลำดับที่ 146 มีวรพจน์ เพชรขุ้ม นักชกเจ้าของเหรียญเงิน โอลิมปิคที่กรุงเอเธนส์ เมื่อ 4 ปีที่แล้วเป็นผู้ถือธงชาติไทยนำทัพ และเจ้าภาพ จีน จะเข้าสู่สนามเป็นชาติสุดท้ายในลำดับที่ 205