ตลาดน้ำที่ไหน ๆ ก็ติดตลาดกันแต่ตอนเช้าทั้งนั้น แต่ที่ตลาดน้ำอัมพวาเขาเรียกว่าเป็น "ตลาดน้ำยามเย็น" ที่เริ่มติดตลาดเอาตอนบ่ายสี่โมงไปยันค่ำ ขับรถสบาย ๆ จากกรุงเทพไปชั่วโมงเศษก็ถึงแล้ว ที่นี่นอกจากจะมีอาหารสารพัดให้เลือกชิมแล้วยังมีบรรยากาศห้องแถวเรือนไม้สองฟากคลองของเก่าแก่ให้ได้ย้อนอดีตกลับไปชื่นชมกันด้วย
อาหารการกินแสนถูกเพียงจานละ 10 บาท 15 บาท ที่สำคัญแม่ค้าแม่ขายจะพายเรือมาจอดให้คุณเกาะตลิ่งสั่งขึ้นมาชิมกัน และความที่เป็นตลาดเย็นอย่างนี้ก็เลยมีกิจกรรมล่องเรือไปชมหิ่งห้อยตัวน้อยส่องแส่งวับแว่บกันอีกด้วย เก๋ไก๋ไม่เหมือนใครเลยทีเดียว แต่ถ้าสนใจจะไปเที่ยวกันอย่าลืมว่า ตลาดมีเฉพาะ ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เท่านั้น พอแดดร่มลมตกซักหน่อย เรือบางส่วนก็ย้ายข้ามมาให้บริการกันอีกฟากหนึ่งของคลอง ที่มีที่ทางกว้างขวางกว่า แล้วก็มีโต๊ะเก้าอี้มาตั้งให้บริการทานกันได้สะดวกหน่อย
แอบกระซิบว่าทางฝั่งที่มีโต๊ะเก้าอี้นี่ตอนบ่ายแดดจะลงเลยไม่มีคนมานั่งกัน แต่พอแดดหมดคนก็ตรึมอย่างที่เห็น เพราะงั้นพอแดดอ่อนแสงลงสักนิดก็ส่งหน่วยหน้ามายึดพื้นที่ไว้ก่อน อีกส่วนก็ออกลาดตระเวนหาเสบียง จะเป็นการดียิ่งนัก ที่ตลาดน้ำอัมพวาเป็นตลาดเก่าแก่ เมื่อสัก 50-60 ปีก่อนที่นี่ถือเป็นตลาดนัดทางน้ำที่ใหญ่ที่สุดในสมุทรสงครามเลย แต่ก็เหมือนกันที่อื่น ๆ ก็คือพอถนนหนทางสะดวกมากขึ้น ตลาดการค้าก็ย้ายไปอยู่ริมถนนกันหมด แต่ชาวอัมพวายังคงอนุรักษ์รูปแบบการตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนไว้อย่างค่อนข้างสมบูรณ์ จนมาได้รับรางวัลชุมชนอนุรักษ์ดีเด่นประจำปี 2545 จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ไป เพราะงั้นก็น่าจะแวะมาชมบ้านเรือสองฝั่งคลองกันสักหน่อย
อาหารการกินแสนถูกเพียงจานละ 10 บาท 15 บาท ที่สำคัญแม่ค้าแม่ขายจะพายเรือมาจอดให้คุณเกาะตลิ่งสั่งขึ้นมาชิมกัน และความที่เป็นตลาดเย็นอย่างนี้ก็เลยมีกิจกรรมล่องเรือไปชมหิ่งห้อยตัวน้อยส่องแส่งวับแว่บกันอีกด้วย เก๋ไก๋ไม่เหมือนใครเลยทีเดียว แต่ถ้าสนใจจะไปเที่ยวกันอย่าลืมว่า ตลาดมีเฉพาะ ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เท่านั้น พอแดดร่มลมตกซักหน่อย เรือบางส่วนก็ย้ายข้ามมาให้บริการกันอีกฟากหนึ่งของคลอง ที่มีที่ทางกว้างขวางกว่า แล้วก็มีโต๊ะเก้าอี้มาตั้งให้บริการทานกันได้สะดวกหน่อย
แอบกระซิบว่าทางฝั่งที่มีโต๊ะเก้าอี้นี่ตอนบ่ายแดดจะลงเลยไม่มีคนมานั่งกัน แต่พอแดดหมดคนก็ตรึมอย่างที่เห็น เพราะงั้นพอแดดอ่อนแสงลงสักนิดก็ส่งหน่วยหน้ามายึดพื้นที่ไว้ก่อน อีกส่วนก็ออกลาดตระเวนหาเสบียง จะเป็นการดียิ่งนัก ที่ตลาดน้ำอัมพวาเป็นตลาดเก่าแก่ เมื่อสัก 50-60 ปีก่อนที่นี่ถือเป็นตลาดนัดทางน้ำที่ใหญ่ที่สุดในสมุทรสงครามเลย แต่ก็เหมือนกันที่อื่น ๆ ก็คือพอถนนหนทางสะดวกมากขึ้น ตลาดการค้าก็ย้ายไปอยู่ริมถนนกันหมด แต่ชาวอัมพวายังคงอนุรักษ์รูปแบบการตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนไว้อย่างค่อนข้างสมบูรณ์ จนมาได้รับรางวัลชุมชนอนุรักษ์ดีเด่นประจำปี 2545 จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ไป เพราะงั้นก็น่าจะแวะมาชมบ้านเรือสองฝั่งคลองกันสักหน่อย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น