วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2552

วัดเซ็นโซจิ

วัดเซ็นโซจิ หรือที่เรียกกันว่าวัดอาซากุสะ เพราะที่ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ ซึ่งวัดนี้เป็นวัดเก่าและมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโตเกียว วัดนี้มีตำนานเล่าขานกันว่า มีสองพี่น้องผู้มีอาชีพหาปลา ณ วันหนึ่งได้มาหาปลาที่แม่น้ำสุมิดะ แล้วได้พบกับ เทวรูปคันนง เข้าโดยบังเอิญ ดังนั้น ด้วยความศรัทธาของ 2 พี่น้องและชาวบ้านของหมู่บ้านละแวกนั้น จึงได้อัญเชิญเทวรูปคันนงประดิษฐาน ณ วัดแห่งนี้ จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือ โคมแดงขนาดยักษ์ ที่ตั้งอยู่ที่บริเวณ ประตูคามินาริมง (ประตูสายฟ้าฟาด) และเมื่อผ่านประตูนี้เข้าไป จะพบกับถนนคนเดินที่มีร้านขายของที่ระลึกพื้นเมือง และของกินมากมายเรียงรายอยู่ที่เรียกกันว่า นาคามิเสะโดริ


วัดเซ็นโซจิ (SENSOJI) หรือที่เรียกกันว่าวัดอาซากุสะ (ASAKUSA TEMPLE) เพราะที่ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ ซึ่งวัดนี้เป็นวัดเก่าและมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโตเกียว สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 628-645 วัดนี้มีตำนานเล่าขานกันว่า มีสองพี่น้องตระกูล ฮิโนะคูมะ (HINOKUMA)ผู้มีอาชีพหาปลา ณ วันหนึ่งได้มาหาปลาที่แม่น้ำสุมิดะ แล้วได้เหวี่ยงแหพบกับ เทวรูปคันนง ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความเมตตาเข้าโดยบังเอิญ และแม้ว่าคนทั้งคู่จะนำรูปปั้นนี้กลับไปคืนแม่น้ำอีกสักกี่ครั้ง ก็จะมีเหตุให้รูปปั้นกลับมาอยู่ในมือของคนทั้งสองเสมอ ดังนั้น ด้วยความศรัทธาของสองพี่น้องและชาวบ้านของ หมู่บ้านละแวกนั้น จึงได้อัญเชิญเทวรูปคันนงประดิษฐาน ณ วัดแห่งนี้ เชื่อกันว่าเจ้าแม่กวนอิมองค์นี้ศักดิ์สิทธิ์มาก ขอพรอะไรก็ได้ตามปรารถนา และตำนานยังมีต่ออีกว่าในช่วงเวลาใกล้เคียงกันกับที่พบรูปปั้นได้ปรากฎมังกรทองตัวหนึ่งเลื้อยลงมาจากสวรรค์ จึงเป็นวัดที่เหล่าโชกุนและซามูไรให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมากในอดีต ปัจจุบันนี้วัดแห่งนี้เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดของกรุงโตเกียว

จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือ โคมแดงขนาดยักษ์ที่ตั้งอยู่ที่บริเวณ ประตูคามินาริมง (Kaminarimon) (ประตูสายฟ้าฟาด) สร้างในปี 1960 ทั้งสองข้างของโคมแดงจะเป็นรูปปั้นของ 2 เทวบาลผู้รักษาประตู ได้แก่ ฟูจิน (FUJIN)เจ้าแห่งสายลม มีอำนาจต่อสายลม แสงแดดและเมฆหมอก รูปองค์สีดำมืดเหมือนเมฆฝน หน้าตาน่ากลัว ห่มหนังเสือดาว มีถุงลมใหญ่พาดไหล่ทั้งสองข้าง ซึ่งอยู่ทางด้านขวา ส่วนด้านซ้าย คือ ไรจิน (RAIJIN) เจ้าแห่งอสุนีบาต รูปองค์สีแดง มีกลองเป็นเครื่องมือในการทำให้ฟ้าแลบและฟ้าผ่า
และเมื่อผ่านประตูนี้เข้าไป จะพบกับ ถนนนาคามิเซะ(NAKAMISE) หรือถนนคนเดินถนนคนเดินที่มีร้านขายของที่ระลึกพื้นเมือง เช่น ของที่ระลึก ตุ๊กตา เสื้อผ้า และขนมแบบญี่ปุ่น และของกินมากมายเรียงราย แบบเฉพาะญี่ปุ่นอยู่ที่เรียกกันว่า ถนนนาคามิเสะโดริ คล้ายกับเป็นการรวมเอาความเป็นญี่ปุ่นมาไว้ที่แห่งนี้ และยังมี ชินนาคามิเซะ (SHIN-NAKAMISE) เป็นถนนคนเดินที่มีหลังคาคลุมตลอด ถนนเส้นนี้ร้านค้าเป็นแบบเปิดปิดได้ แบบห้องแถว มีร้านค้าและและร้านอาหารให้เลือกอีกมากมาย
ภายในวัดก็จะมีให้สักการะเทพเจ้าคันนน โดยการรดน้ำ และตรงกลางวัดจะมีกระถางธูปขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นความเชื่อว่า ไปรับควันนี้ติดตัวมา จะโชคดีมีสุข เพราะฉะนั้นคนที่ไป ก็จะไปยืนอังรับเอาไอควันนั้นเข้าตัว และการทำบุญไหว้พระ ด้วยการโยนเหรียญลงในกล่อง และการเสี่ยงเซียมซี หรือ โอมิกุจิ (Omiguji)ส่วนเจ้าแม่กวนอิมจะประดิษฐานอยู่ภายใน ก่อนถึงจะถึงองค์เจ้าแม่กวนอิม จะต้องผ่านประตูที่สองที่เป็นประตูชั้นในประตูนี้มีชื่อว่า โฮโซมน (HOZOMON)หรือประตูแห่งขุมทรัพย์หรือความหมายที่แท้จริงก็คือ พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้านั่นเอง ด้านซ้ายมือของที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม คือ ศาลเจ้าอาซากุสะ ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเอโดะ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองที่กรุงโตเกียวถูกฝ่ายสัมพันธมิตรทิ้งระเบิดได้รับความเสียหายอย่างหนักแต่ศาลเจ้าแห่งนี้ไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่น้อย

ไม่มีความคิดเห็น: