วันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2552

การประชุมอาเซียน







นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเดินทางกลับจากการเยื่อนสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ว่า เช้าวันนี้ (21) ได้เดินทางไปที่สำนักเลขาธิการอาเซียน เพื่อพบฑูตประเทศต่างๆ ที่ประจำการอยู่ที่สำนักเลขาธิการอาเซียน และสื่อมวลชน ตนเองได้กล่าวสุนทรพจน์และตอบคำถาม โดยเฉพาะเรื่องความคาดหวังต่อการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งทุกฝ่ายต้องการเห็นการประชุมเดินหน้าด้วยความเรียบร้อย เพราะถือเป็นกาปรระชุมครั้งสำคัญในอาเซียนตามกฎบัตใหม่ และจะเป็นผลประโยชน์ของภูมิภาคนี้ นอกจากนี้การประชุมครั้งนี้ยังเป็นที่จับตาของประเทศนอกภูมิภาคเกี่ยวกับความคืบหน้าของอาเซียน ซึ่งตนเอได้ให้ความมั่นใจในเรื่องความพร้อมเกี่ยวกับการจัดประชุมครั้งนี้ รวมทั้งได้พูดถึงเนื้อหาของกาปรระชุมบางส่วนด้วย
ทั้งนี้มีความกังวลเรื่องการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีการสอบถามเรื่องนี้ เพียงแต่ถามว่าไทยพร้อมหรือไม่ในการจัดการประชุม และสนใจเรื่องเนื้อหาสาระของการประชุมมากกว่า ส่วนตัวคิดว่าต่างประเทศสนใจที่จะเห็นความก้าวหน้าของอาเซียน โดยมีความห่วงใยเรื่องนี้เป็นหลัก
สำหรับความพร้อมด้านมาตรการรักษาความปลอดภัย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบ ได้ดำเนินการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งประชุมซักซ้อมเตรียมความพร้อม เพื่อปรับให้เข้ากับสถานการณ์ตลอดเวลา ส่วนที่การข่าวระบุว่าการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงอาจมีความรุนแรงเกิดขึ้น ตนเองคิดว่ามีบางกลุ่ม ส่วนตัวยังหวังว่าเป็นส่วนน้อย และอยากฝากให้แกนนำดูแล
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทยเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ฮ่องกง คิดว่าเป็นการไปรับนโยบายหรือรับงานบางอย่างมาดำเนินการเพื่อให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเองไม่อยู่ในฐานะที่จะไปคาดคะเนอะไร แต่คิดว่าอยากให้ ส.ส.ทุกคนคิดถึงประโยชน์ของประเทศ ซึ่งวันนี้คือการทำหน้าที่ประธานอาเซียนให้ดีเพื่อสร้างความเชื่อมั่น และเร่งแก้ปัญหาให้กับประเทศไทย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมออกหมายจับ 21 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่เป็นการยืนยันได้ว่าทุกคดีเดินหน้า โดยเฉพาะคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะ ส่วนที่แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ระบุ การออกหมายจับเป็นเกมการเมืองที่กดดันกลุ่มคนเสื้อแดง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนจะไม่นำเรื่องนี้เป็นเกมการเมืองให้เป็นดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องใครที่คิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถร้องเรียนได้ผ่านกระบวนการ
ต่อข้อถามว่ากลัวหรือไม่ว่าจะมีทั้งม็อบเสื้อแดงและเสื้อเหลืองออกมาพร้อมกัน นายอภิสิทธ์ กล่าวว่า อยู่ที่แต่ละฝ่ายจะตัดสินใจ เพราะเคยบอกแล้วว่าถ้าทำอยู่ภายใต้กฎหมายก็เป็นสิทธิที่ทำได้ ซึ่งตนจะชี้แจงอย่างดีที่สุด และยืนยันว่าเรื่องนี้ตนไม่มีส่วนได้เสียหรือมีความคิดเล่นการเมืองกับเรื่องนี้ เพราะต้องการให้บ้านเมืองเป็นที่เชื่อมั่นของทุกฝ่าย โดยเฉพาะในสายตาของต่างประเทศ และไม่ว่าการตัดสินในทุกขั้นตอนจะเป็นอย่างไร ย่อมมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีการเปิดเผยผลสอบสวนเหตุการณ์สลายการชุมนุมวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ว่า ปัญหาของรายงานชุดดังกล่าว คือ คณะกรรมการได้ข้อสรุปเฉพาะเรื่องเชิงมาตรการ เช่น กรณีความพร้อมการจัดการการชุมนุม แต่ในแง่การสอบข้อเท็จจริงและการหาผู้รับผิดชอบไม่คืบหน้า เพราะทำงานไม่ได้แล้ว ซึ่งคณะกรรมการชุดดังกล่าวได้รายงานเข้ามาและกำลังทำเรื่องส่งคืน รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมถึงไม่มีการพบความรับผิดชอบของบุคคล ก็ถือว่าเรื่องนี้สิ้นสุดกันไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนในฐานะ ส.ส. เคยร้องให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริง กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งต้องรอองค์กรดังกล่าวชี้ขาด โดยรัฐจะไม่เข้าไปแทรกแซงเด็ดขาด แต่ถ้าขอความร่วมมือจากทางรัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐก็จะช่วยดำเนินการให้

ไม่มีความคิดเห็น: